คุณสมบัติเลนส์มีอะไรบ้าง?
เลนส์สายตา ธรรมดา (จะไม่มีUVป้องกันแสงแดด ยกเว้นการเคลือบสีจะช่วยได้) เหมาะสำหรับการมองไกล้ ระยะ 1.5-2.5 ฟุต เพราะแสงรบกวนน้อยที่สุดเลนส์สายตา เคลือบฮาร์ด(H) จะช่วยในเรื่องของผิวเลนส์ ที่ทนต่อรอยขีดข่วน รอยขนแมว การเคลือบฮาร์ดจะทนกว่าเลนส์ธรรมดาในเรื่องของผิวเลนส์
เลนส์ มัลติลโค๊ค (MC)จะช่วยในเรื่องการตัดแสงรบกวนระดับนึง เหมาะสำหรับการคืนเพราะแสงรบกวนมากที่สุด
*เลนส์ มัลติลโค๊ค(MC)บางตัวจะมี UV350 -380-400 หรือ EIM เป็นเฉพาะบางตัว
เลนส์ ฮาร์ดมัลติลโค๊ค (H-MC) หรือ ฮาร์ด+มัลติลโค๊ค (เพิ่มความสามารถของผิวเลนส์)
เลนส์ TNC Titanium Nano Coating ไททาเนียม นาโน โค๊ดติ้ง
เลนส์ปรับแสง หรือ Photochromic lens เป็นเลนส์ที่เมื่อถูกแสงจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มและเมื่ออยู่ในที่มืดจะมีสีจางลง ทั้งนี้เพราะมีอณูสาร silver halide เป็นตัวสร้าง แต่ความแตกต่างจริงๆคือการมองจากภายนอกจะเปลี่ยนสี ผู้สวมใสจะไม่เห็นความแตกต่างในการมองเห็น(แฟชั่น)
เลนส์ปรับแสง จะมีมัลติลโค๊ค(MC) กับEMI ติดมาด้วยเป็นอย่างต่ำ=เกรดB
*EMI (Electro Magnetic Infrared) จะช่วยป้องกันรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าสูดวงตา เหมาะสำหรับผู้ใช้อีเล็คโทนิค เป็นประจำ
คุณสมบัติของเลนส์ (เลนส์ชั้นเดียว เลนส์2ชั้น เลนส์ไร้รอยต่อ)
NON เลนส์ธรรมดา
H เลนส์Hard
MC มัลติลโค๊ค
H-MC ฮาร์ดมัลติลโค๊ค
S-MC ซุปเปอร์มัลติลโค๊ค
EMI (Electro Magnetic Infrared) หรือ Anti-Static Electricity , Anti-Radition
VP เพิ่มความลื้นของเลนส์ ลดการจับตัวของฝุ่น ฝ้า เชื้อราได้ดี(ช่วยยืดอายุของตัวเลนส์)
UV 350 -380-400 ป้องกันแสงแดด
Hivision ความคมชัดในเรื่องของสี
INDEX 1.49 ,1.56 , 1.60 , 1.67 , 1.70 , 1.74 ดัชนี จะเป็นตัวบอกในเรื่อง ความเหนี่ยว น้ำหนัก การหักเหของแสง ฯลฯ
มุมมอง มีให้ตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง จะมีบอกในแต่ละรุ่น
กำลังของแสง ID เป็นความนุ่มนวลในการมอง(ผู้ที่เคยใช้จะสังเกตถึงความแตกต่าง) เป็นตัวช่วยอีกตัวที่ให้เบอร์สายตาไม่เปลี่ยนบ่อย
วัสดุของเลนส์
1.พลาสติก มีเลือกหลายเกรด(แล้วแต่ผู้ผลิตออกมา) ข้อดีน้ำหนักเบากว่ากระจก มีความปอดภัยมากกว่ากระจก ข้อเสีย ผิวเลนส์เป็นรอยง่ายกว่ากระจก
2.กระจก ข้อดี ค่า INDEX สูง ในเรื่องของความชัด-ผิวเลนส์ ข้อเสียน้ำหนักมาก แตกง่าย ค่าฝนเลนส์แพง
ลักษณะตัวเลนส์
1.ความโค้งของเลนส์ (เลนส์แว่นทรงสปอร์ตมีความโค้ง(6,8) มากกว่าเลนส์สายตาปกติ(4))2.เส้นผ่าศุนย์กลางของเลนส์ 55 ถึง70 มิลลิเมตร(เลนส์สำเร็จ)สูงสุดคือ 80 MM(เเลนส์สั่งผลิต)
3.คุณสมบัติที่กล่าวข้างต้น
วัสดุของกรอบแว่นโดยทั้วไป
1.เนื้อแข็ง เช่น โลหะ (โลหะพิเศษไททาเนียม) ทองคำ ฯลฯ
2.เนื้ออ่อน เช่น พลาสติก
3.เนื้อผสม ระหว่างโลหะ กับ พสาลติก
รูปทรงกรอบแว่น
มีให้เลือกมากมายตามท้องตลาด แต่ที่สำคัญขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้ รูปทรง ราคา คุณภาพ ความคงทน
ลักษณะของกรอบแว่นกับตัวเลนส์
1. กรอบเต็ม คือใช้กรอบยึดกับตัวเลนส์รอบด้าน (ใช้น็อตยึดกับตัวกรอบ) 2. กรอบเซาะร่อง คือ ใช้เอ็นใส หรือ ตัวกรอบยึดเอ็นใสประมาณครึงหนึง หรือ เกือบทั้งหมด (ไม่ใช้น็อตยึดกับตัวกรอบ)
3. กรอบเจาะ คือ การใช้น็อตยึดกับตัวเลนส์โดยตรง
ข้อดี-ข้อเสีย
กรอบเต็ม ข้อดี ตัวเลนส์มีความแข็งแรง ไม่หลุดง่าย ใช้เลนส์ที่มี INDEX ต่ำได้
ข้อเสีย นำหนักจะมากทีสุด
กรอบเซาะร่อง(จะเน้นไปทางแฟชั่น) ข้อดี น้ำหนักปานกลาง เหมาะสำหรับเลนส์ที่มี INDEX1.56 ขึ้นไป
ข้อเสีย ขอบของเลนส์เปราะ-เกิดรอยแตก-บิ่น ง่ายแม้จะใช้INDEX1.56(บางตัว)แล้วก็ตาม
กรอบเจาะ ข้อดีน้ำหนักจะเบาที่สุด(ขาแว่น 2 ข้าง + ก้าน(ตรงกลาง)) สามารถกำหนดรูปทรงของเลนส์ได้(ตามความต้องการ)
ข้อเสีย ความแข็งแรง รูทีเจาะกับตัวเกิดรอยรอยร้าวง่าย(ยึดแน่นๆถึงกับแตก) น็อตที่ยึดกับเลนส์ หลุดง่าย เสียทรง ราคาประกอบแพง (ใช้เลนส์INDEX1.60จะไม่มีปัญหา)
ตัวเลนส์กับผู้ใช้
PD คืออะไร?
ค่าความความห่างระหว่าง ลูกตาดำ(ม่านตาที่อยู่ตรงกลาง) 2ข้าง ซ้ายขวา หน่วยเป็น มิลลิเมตร *ต้องมองไปข้างหน้า(เส้นระดับน้ำ )ค่าPDมีความสำคัญมากในเรื่องของความชัดเจน (ตำแหน่งของดวงตา)
ตัวเลนส์ก่อนจะนำไปประกอบ จะมีลักษณะเป็นวงกลม จุดตรงกลางเลนส์จะเป็นจุดที่ดีสุดในตัวเลนส์นั้นๆ(เส้นผ่าศูนย์กลาง 55-70 MM.ถ้าตัวเลนส์ที่จะตัดใหม่ยาวเกินไป ตัวเลนส์ที่จะไปประกอบอาจจะประกอบไม่ได้ จะพบบ่อยสำหรับคนที่มีPD 55-60 กับ กรอบเลนส์ทีใหญ่เกินไป)
จุดกลางเลนส์นี้จะนำไปประกอบให้เข้า กับ PDของแต่ละคน
การเลือกใช้เลนส์สายตาที่ไม่ทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก(การเพ่งเมองนานๆ)ควรใช้เบอร์อ่อนกว่า 1 Step (สบายตาที่สุด)
เลนส์สายตาทั้วๆไป จะไม่มี UV เหมาะใช้สายตาระยะไกล้ เพราะแสงรบกวนน้อยที่สุด มาตรฐานในการมอง ระยะ 1.5-2 ฟุต(สำหรับอ่านสือ) ส่วนการนั้งทำงาน ผู้ใช้ควรกำหนดระยะที่เหมาะสมเองได้
การใส่ออกแดดกลางวันควรมี ตัว UVA และ UVB เพื่อป้องกันแสงแดด ส่วน เลนส์มัลติลโค๊ด เป็นเลนส์เคลือบเพื่อป้องกันแสงสะท้อนพื้นผิวเลนส์เท่านั้น ทำให้มองเห็นชัดขึ้น จะช่วยลดแสงรบกวนอื่นๆได้ เหมาะสำหรับใช้กลางคืน(แสงรบกวนจะมีมากกว่ากลางวัน)
E.M.I.(LENS Electro Magnetic Infrared Lens) จะช่วยป้องกันรังสีคลื่นแม่ไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ จำพวก อีเล็คโทนิค อุปกรณ์ ทุกชนิด เป็นเวลานานๆ ที่ใช้สายตา เช่น คอมพิวเตอร์ TV ฯลฯ
ไม่ควรใช้เลนส์พลาสติกสำเร็จเป็นประจำ (PDไม่ตรงกันด้วย)เพราะเป็นเลนส์คุณภาพต่ำ พลาสติกเนื้อแข็ง ผิวเลนส์เป็นรอยง่าย(เคืองตา)แสงที่ผ่านเลนส์จะจ้ากว่า และไม่มีUVป้องกันแสงสว่างจากภายนอก มีผลกระทบกับกล้ามเนื้อตา แบบไม่รู้ตัว อารการหนักหน่อยก็เป็น โรคต้อกระจก มารู้ตัวอีกที่ก็ 1 ปีเปลี่ยนเบอร์สายตา 2-4 ครั้งขึ้นไป บุคคลทั้วไปส่วนมากอายุ 30 ปีกว่าจะเริ่มมีอาการ ด้านสายตาพอสมควร พอไกล้ อายุ 40 ปีสายตาเริ่มเปลี่ยนถี่ขึ้น อายุ 40 ปีเกือบทุกคนคนต้องมีแว่นไว้ใช้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้แต่ในระยะไกล้เพราะแสงรบกวนน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ควรใช้เป็นประจำ
เลนส์สายตาทั้วๆไป จะไม่มี UV เหมาะใช้สายตาระยะไกล้ เพราะแสงรบกวนน้อยที่สุด มาตรฐานในการมอง ระยะ 1.5-2 ฟุต(สำหรับอ่านสือ) ส่วนการนั้งทำงาน ผู้ใช้ควรกำหนดระยะที่เหมาะสมเองได้
การใส่ออกแดดกลางวันควรมี ตัว UVA และ UVB เพื่อป้องกันแสงแดด ส่วน เลนส์มัลติลโค๊ด เป็นเลนส์เคลือบเพื่อป้องกันแสงสะท้อนพื้นผิวเลนส์เท่านั้น ทำให้มองเห็นชัดขึ้น จะช่วยลดแสงรบกวนอื่นๆได้ เหมาะสำหรับใช้กลางคืน(แสงรบกวนจะมีมากกว่ากลางวัน)
E.M.I.(LENS Electro Magnetic Infrared Lens) จะช่วยป้องกันรังสีคลื่นแม่ไฟฟ้า เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ จำพวก อีเล็คโทนิค อุปกรณ์ ทุกชนิด เป็นเวลานานๆ ที่ใช้สายตา เช่น คอมพิวเตอร์ TV ฯลฯ
ไม่ควรใช้เลนส์พลาสติกสำเร็จเป็นประจำ (PDไม่ตรงกันด้วย)เพราะเป็นเลนส์คุณภาพต่ำ พลาสติกเนื้อแข็ง ผิวเลนส์เป็นรอยง่าย(เคืองตา)แสงที่ผ่านเลนส์จะจ้ากว่า และไม่มีUVป้องกันแสงสว่างจากภายนอก มีผลกระทบกับกล้ามเนื้อตา แบบไม่รู้ตัว อารการหนักหน่อยก็เป็น โรคต้อกระจก มารู้ตัวอีกที่ก็ 1 ปีเปลี่ยนเบอร์สายตา 2-4 ครั้งขึ้นไป บุคคลทั้วไปส่วนมากอายุ 30 ปีกว่าจะเริ่มมีอาการ ด้านสายตาพอสมควร พอไกล้ อายุ 40 ปีสายตาเริ่มเปลี่ยนถี่ขึ้น อายุ 40 ปีเกือบทุกคนคนต้องมีแว่นไว้ใช้ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้แต่ในระยะไกล้เพราะแสงรบกวนน้อยที่สุด แต่ก็ไม่ควรใช้เป็นประจำ
สายตาสั้น มองไกล้ชัด มองไกลๆ ไม่ชัด
สายตายาวมองไกลชัด มองไกล้ๆไม่ชัด
สายตาเอียง ส่วนใหญ่เกิดความไม่สมดุลย์ในความโค้งของกระจ กตา
สายตายาวมองไกลชัด มองไกล้ๆไม่ชัด
สายตาเอียง ส่วนใหญ่เกิดความไม่สมดุลย์ในความโค้งของกระจ กตา
สายตายาวจะเน้นมองไกล และมองไกล้
สายตาสั้นจะเน้นมองไกล มองไกล้จะไม่มีปัญหา(อายุมากขึ้นอาจจะมีปัญหาการมองไกล้เข้ามาเพิ่ม ADDขึ้นอยู่กับบุคลลนั้น)
